ททท.เชียงใหม่ระดมกูรูแต่ละด้านร่วมคิดทำถนนคนเดินต้นแบบ”เตียวม่วน ชวนแอ่ว ถนนคนเดินล้านนา” ภายใต้แนวคิด Rethink the Street, Reimaging the Local

ททท.เชียงใหม่เดินหน้าสร้างจุดขายจากมนต์เสน่ห์”ถนนคนเดิน”จับมือหลายส่วนในจังหวัดเชียงใหม่-ลำพูน ร่วมค้นหาสร้างต้นแบบเพื่อพัฒนาท่องเที่ยวภาคเหนือ บนเสน่ห์คนเมือง สู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน

เชียงใหม่ 28 ต.ค.- ที่นิมมาน คอนเวนชั้น เซ็นเตอร์(@Nimman Convention Centre) อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)จัดกิจกรรมเวทีเผยแพร่องค์ความรู้การศึกษาแนวทางการศึกษาแนวทางพัฒนาถนนคนเดินต้นต้นแบบ “เตียวม่วน ชวนแอ่ว ถนนคนเดินล้านนา” ภายใต้แมวคิด Rethink the Street, Reimaging the Local โครงการศึกษาศักยภาพการจัดกิจกรรมท่องเที่ยวย่านถนนคนเดินและสินค้า/บริการทางการท่องเที่ยวเพื่อเป็นต้นแบบในการส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วยเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ โดยร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่ เทศบาลนครเชียงใหม่ เทศบาลตำบลสันกำแพง อำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูนสถาบันการศึกษา ภาคเอกชนและชุมชนท้องถิ่น จัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้น เพื่อยกระดับคุณภาพของแหล่งท่องเที่ยว สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าเชิงวัฒนธรรม ผ่านอัตลักษณ์ที่โดดเด่น ประสบการณ์อันมีคุณค่า และเรื่องเล่าที่มีความหมายของชุมชนอย่างเป็นระบบ อันนำไปสู่การกระจายตัวและความถี่ในการท่องเที่ยวจากเมืองหลัก สู่เมืองน่าเที่ยวอย่างยั่งยืน

โดยนายวีรพงษ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพ เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวระดับสากล มีความโดดเด่น ทั้งทางธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรม และเป็นศูนย์กลางด้าน MICE, Wellness รวมถึงมีศักยภาพในฐานะศูนย์กลางการค้า การลงทุน และการคมนาคมขนส่ง โดยถนนคนเดินของจังหวัดเชียงใหม่ ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวหนึ่งที่ห้ามพลาด เมื่อเดินทางท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ เพราะนอกจากนักท่องเที่ยวจะได้จับจ่ายใช้สอย ในเรื่องของอาหาร ของใช้และของที่ระลึกแล้ว ยังได้สัมผัสประสบการณ์และเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมที่สะท้อนอัตลักษณ์ของชาวเชียงใหม่ไปพร้อมๆ กัน ดังนั้นการศึกษาถนนคนเดิน นอกจากจะช่วยพัฒนาให้เป็นระบบมากขึ้นแล้ว ยังเป็นการเติมเต็มถนนคนเดินเชียงใหม่ให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น เป็นถนนคนเดินต้นแบบที่พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้อย่างภาคภูมิใจ มองว่า ถนนคนเดิน คือ ห้องรับแขก ที่เป็นภาพจำของนักท่องเที่ยว มีวิวัฒนาการจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ถนนคนเดินเชียงใหม่ คือ เอกลักษณ์ที่คนคิดถึงและต้องมาแอ่วให้ได้ ส่วนถนนคนเดินสันกำแพง คือ แหล่งรวมสินค้าสร้างสรรค์จากฝีมือคนท้องถิ่น จากภูมิปัญญา ไม่ว่าจะเป็นผ้าซิ่น ผ้าไหม ไม้แกะสลัก กระดาษสา มาถึงวันที่มีการยกระดับ เพิ่มความทันสมัย ใช้พลังงานที่สร้างสรรค์ของคนเชียงใหม่ จากต้นทุนทางวัฒนธรรมและสังคมมาเป็นแรงขับเคลื่อน เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพและสร้างรายได้ในพื้นที่อย่างยั่งยืน

ขณะที่นายขจรเดช อภิชาติตรากุล ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวถึงบทบาทของ “ถนนคนเดิน”ในฐานะกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ว่า เวทีนี้ได้สรุปองค์ความรู้จากการดำเนินงานถนนคนเดินใน 3 พื้นที่นำร่อง ได้แก่ ถนนคนเดินท่าแพ ถนนคนเดินสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ และชุมชนบ้านธิ จังหวัดลำพูน ในฐานะพื้นที่พัฒนาผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์เชื่อมโยงถนนคนเดิน เพื่อส่งเสริมบทบาทของถนนคนเดินในฐานะพื้นที่สร้างสรรค์ของเมืองที่เชื่อมโยงการท่องเที่ยว วิถีชีวิตและเศรษฐกิจฐานราก พร้อมทั้งแสดงพลังความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ในการผลักดันถนนคนเดินให้เป็น ‘ต้นแบบการพัฒนาเชิงพื้นที่ด้วยเศรษฐกิจสร้างสรรค์‘ ที่ตอบโจทย์การท่องเที่ยวยุคใหม่อย่างแท้จริงและจับต้องได้

ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ ระบุว่า Value is the new Volume คือ คุณค่าที่แท้จริงและมีมูลค่ามากกว่าปริมาณ เป็นการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน ที่สามารถเรียนรู้ ลงมือทำและแลกเปลี่ยน ในวิถีชีวิตผ่านการลงสีแต่งแต้มในกระดาษสา เป็นก้าวย่างของคำว่า เมืองน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก ซึ่งก็คือ วิถีที่เรียบง่ายของภาคเหนือที่มีมนต์เสน่ห์

นอกจากนี้ภายในงาน มีผู้บริหารท้องถิ่น นักวิชาการ ศิลปิน ผู้ประกอบการและนักออกแบบชื่อดังร่วมพูดคุยและเสวนาสะทัอนเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ โดย รศ.ดร.จิรันธนิน กิติกา คณะสถาปัตยกรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวถึงแนวคิดการพัฒนาและทำความเข้าใจหลักการออกแบบและจัดการพื้นที่เมืองโดยใช้รากฐานจากภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อสร้างพื้นที่ที่ส่งเสริมความ
สร้างสรรค์ นวัตกรรมและการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้กับผู้คนในเมืองว่า สิ่งแรกคือ คนท่าแพและคนสันกำแพง หรือคนเชียงใหม่เป็นความหมายของเมือง จึงต้องรู้ตัวว่า เราคือใคร จะขายอะไร แต่งตัวแบบไหนจึงจะพอเหมาะพอดี รู้ที่รู้ทาง อะไรคือ จุดเด่น รอบตัวมีอะไร ชวนและสร้างเครือข่าย ทำให้ตลาดหรือกาด ม่วนหรือสนุก มีเรื่องราวเฉพาะจุด เช่น ปักร่มพื้นเมืองเป็นหมู่ รู้จักกัน หรือรู้หมู่ ประดับโคมแขวนเหมือนกัน เกิดเศรษฐกิจแบ่งปัน ไม่แข่ง ไม่ขิง นี่คือ กุญแจสำคัญในการค้าการขาย รู้สื่อ คือ สร้างโมเดล ไม่ทำซ้ำ เผยแพร่บ่อยๆ ปรับเปลี่ยน และรู้อี้ คือ มันต้องอย่างนี้ สร้างสรรค์เรื่องราวเรื่องเล่าที่แตกต่าง ยกตัวอย่าง ประเทศญี่ปุ่นที่เขามี 4 ฤดู เขาก็จะปรับแต่งหน้าร้านใหม่เสมอ การแต่งกายที่ไม่เหมือนกันแม้จะเป็นเรื่องเล่าเดียวกัน แต่คนละพื้นที่สามารถนำเสนอคนละแบบได้ การท่องเที่ยวจะยั่งยืนได้ต้องทำให้ครบทั้ง สังคม สิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ ทุกอย่างก็จะไปได้สวย

ในประเด็น The Living Street เสน่ห์ถนนคนเดิน…จากความผูกพันสู่การเติบโตอย่างสร้างสรรค์ มีผู้มาร่วมพูดคุยในมุมมองที่หลากหลาย ทั้งจากคนในพื้นพื้นที่ เพื่อค้นทาเสน่ห์ที่แท้จริงของถนนคนเดินและแนวทางการพัฒนาให้เป็นพื้นที่ที่มีชีวิตชีวาและเติบโตไปพร้อมกับชุมชนอย่างยั่งยืน โดยมีผู้ร่วมสะท้อน นายศิริชัย ก้องไพรภพ คณะกรรมการถนนคนเดินท่าแพ โซน 4 อ้อม รัตนัง ศิลปินนักร้องชาวเชียงใหม่ที่เติบโตมากับถนนคนเดิน และเพจอินไซด์ล้านนา Lanna Style Online Content

ขณะที่มุมมองในเรื่อง Content แบบใดสร้างเสน่ห์ให้ถนนคนเดิน จากความผูกพัน ในฐานะที่เติบโตมาพร้อมกับถนนเดิน พร้อมความทรงจำของถนนคนเดินในอดีตที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา แบ่งปันมุมมองและแนวคิดในการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยปัจจุบันโดย น.ส.ศิรพันธ์ หรือ นุ่น วัฒนจินดา นักแสดงชื่อดังและผู้ก่อตั้ง ECO LIFE กล่าวว่า ในฐานะลูกหลานคนเชียงใหม่ คนเหนือแท้ๆ ถนนคนเดิน คือ เสน่ห์ เป็นสถานที่นักท่องเที่ยวทุกคนอยากมาเห็น จึงอยากให้นำเสน่ห์ที่หายไปกลับมา ความงามที่ส่งผ่านพ่ออุ๊ยแม่อุ๊ย ด้วยรอยยิ้ม มิตรไมตรี การแต่งกาย เสื้อผ้า เครื่องจักสาน การอู้จาภาษาเมืองที่น่ารักสดใส เราต้องไม่ลืมความเก๋ของการแต่งตัว เสน่ห์เหล่านี้หาไม่ได้ที่ไหน มีที่เดียวในโลก

“อยากบอกว่า เมืองเติบโตได้ แต่อย่าละทิ้งเสน่ห์ของคนเชียงใหม่ คนเมืองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่อยากให้ถนนคนเดินเป็นแค่ตลาดนัดธรรมดา แต่ขอให้รักษาคุณค่าเดิมไว้ คือ ยิ้มแย้ม ทักทาย คำอู้คำจาที่มาจากใจ ไม่ขายเก่ง คือ มีทั้งความสนุกและมีเสน่ห์ไปพร้อมกัน ซึ่งจะทำให้ขายของได้แน่ๆ“นุ่นกล่าวและว่า อยากเห็นถังขยะแบบจักสานด้วยวัสดุพื้นบ้านน่ารักๆ บริเวณจุดทิ้งขยะ มีคนเฒ่าคนแก่มายืนแนะนำว่า ขยะแบบไหนนำไปรีไซเคิลได้ ขายได้ คือ เกิดการจ้างงานที่สร้างรายได้และรอยยิ้มให้ทั้งสองฝ่าย หรือมีรางวัลมอบให้หากทิ้งถูกที่ เป็นการสร้างระบบที่ต่อยอดไปสู่การท่องเที่ยวที่ยั่งยืนได้

ทั้งนี้ภายในงานมีการจัดนิทรรศการผลงานแนวคิด ‘ถนนคนเดินสร้างสรรค์’ และกิจกรรม Creative Performance ถ่ายทอดความ มีชีวิตชีวาของถนนคนเดินล้านนาที่เป็นทั้งเวทีวัฒนธรรม จุดนัดพบของชุมชนและพื้นที่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในความพยายามของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และพันธมิตรในการ Rethink the Street, Reimagine the Local หรือ การคิดใหม่ ออกแบบใหม่ เพื่อให้ถนนคนเดินกลายเป็นเวทีของวัฒนธรรม วิถีชีวิตและพลังสร้างสรรค์ท้องถิ่น ที่ไม่ใช่เป็นเพียงพื้นที่มาค้าขาย แต่เป็นพื้นที่คุณภาพของเมือง ที่สามารถเล่าเรื่องคน ทุนทางวัฒนธรรมและสร้างระบบเศรษฐกิจใหม่ที่ยั่งยืนได้อย่างแท้จริง.