แม่ทัพกุ้งควงโฆษก ทบ.ขึ้นเชียงใหม่ บรรยายพิเศษความจริงชายแดนไทย-กัมพูชา บรรยากาศสุดอบอุ่น ติงรัฐบาลคิดให้ดีเปิดด่าน ความมั่นคงชาติมาก่อน

“แม่ทัพกุ้ง”ควง“โฆษกต๊อด” ขึ้นเชียงใหม่บรรยายพิเศษ “เรื่องจริงจากชายแดน (The true stories from the border)” บรรยากาศต้อนรับสุดคึกคักอบอุ่น ย้ำกับเยาวชนคนรุ่นใหม่ใช้โซเชียลสร้างสรรค์ขอยึดมั่นใน 3 สถาบันหลักของชาติ อย่าตกเป็นเหยื่อเฟคนิวส์

เชียงใหม่ 15 ก.ย. – ที่หอประชุมทีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ รองศาสตราจารย์ ดร.ชาตรี มณีโกศล อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ พร้อมคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยให้การต้อนรับ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และ พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ในการมาบรรยายพิเศษ “เรื่องจริงจากชายแดน (The true stories from the border)” เพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจต่อสถานการณ์ความมั่นคงของประเทศ พร้อมปลูกฝังความรักชาติ สร้างสำนึกในหน้าที่การเป็นพลเมืองที่ดี และส่งเสริมอุดมการณ์ที่ถูกต้องให้กับเยาวชนซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ ทั้งนี้มีนักเรียนโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ นักศึกษา อาจารย์ บุคลากร ประชาชนผู้สนใจในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และใกล้เคียง รวมถึงชมรมคนรักในหลวงและปกป้องสถาบัน จังหวัดเชียงใหม่ ชมรมผู้สูงอายุตำบลขี้เหล็ก เข้าร่วมรับฟังการบรรยายพิเศษและให้กำลังใจต้อนรับแม่ทัพภาคที่ 2 และโฆษกกองทัพบก อย่างคับคั่งอบอุ่นเป็นกันเองกว่า 3,000 คน

โอกาสนี้พลโทบุญสิน ได้เล่าประสบการณ์ที่ตึงเครียดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ทหารไทยต้องตรึงกำลังประจันหน้ากับฝ่ายตรงข้าม ท่ามกลางข้อจำกัดและแรงกดดันมหาศาล พร้อมได้กล่าวสดุดีเหล่าทหารกล้าที่เสียสละเพื่อแผ่นดินไทย แสดงความเสียใจต่อประชาชนผู้สูญเสียจากเหตุการณ์ครั้งนี้ พร้อมประณามการกระทำของทหารกัมพูชาที่โจมตีเข้ามาด้วยอาวุธหนัก โดยไม่เลือกเป้าหมาย จนประชาชนชาวไทยเสียชีวิต พร้อมเน้นย้ำกับเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มาร่วมฟังบรรยายในวันนี้ด้วยว่า ขอให้ยึดมั่นใน 3 สถาบันหลักของชาติ มีความรักชาติความหวงแหนในผืนแผ่นดินไทยที่เรากำเนิด จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และช่วยกันทำนุบำรุงศาสนา ร่วมแรงร่วมใจสามัคคีกันเป็นพลังให้ประเทศไทยก้าวผ่านความท้าทายในสถานการณ์ปัจจุบันอย่างมากมายไปให้ได้

แม่ทัพภาคที่ 2 ยังเปิดเผยถึงเรื่องการเปิดด่านชายแดนที่กำลังเป็นข้อถกเถียงเวลานี้ด้วยว่า จากข่าวที่เผยแพร่ทางรัฐบาลมีหน้าที่ ที่จะต้องตัดสินใจซึ่งต้องพิจารณาหลายด้านให้รอบคอบ เพราะความมั่นคงมีความสำคัญ ส่วนกองทัพก็มีหน้าที่ดูแลพื้นที่ชายแดน นำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องจากแนวหน้า พร้อมคำแนะนำให้กับรัฐบาลเป็นผู้ตัดสินใจยืนยันว่า ภารกิจกองทัพไทยจะไม่ยอมเสียดินแดนแม้เพียงตารางนิ้วเดียว ประเทศกัมพูชามีความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภคจากประเทศไทยหลายอย่าง การปิดด่านเป็นการตัดทรัพยากรและยุทธปัจจัยหลายอย่างทั้งน้ำมัน อาหาร เป็นหนึ่งในยุทธวิธีเพื่อชิงความได้เปรียบในสมรภูมิ ซึ่งอาจทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนสงบลงได้โดยไม่ต้องปะทะกันให้เสียเลือดเนื้อหากเร่งดำเนินการ อาจก่อให้เกิดปัญหาการลักลอบเข้าเมืองและยาเสพติด ซึ่งเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อสังคม ความมั่นคงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องมาก่อนผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจในระยะสั้น
ยอมรับว่า ทหารในยุคปัจจุบันถูกท้าทายด้วยหลายปัจจัย ทั้งสภาพเศรษฐกิจและสถานการณ์ทางการเมือง โดยเฉพาะคำถามที่ว่า “ทหารมีไว้ทำไม” ซึ่งเชื่อว่าตอนนี้พี่น้องประชาชนน่าจะได้คำตอบที่ชัดเจนแล้วว่า “ทหารมีไว้ทำไม?” และจากสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดน ไทย – กัมพูชา ที่เกิดขึ้นนี้ ประชาชนทุกคนถือเป็นกำลังรบสำคัญของกองทัพไทย เป็นสนามรบในด้านข้อมูลข่าวสารที่เกิดขึ้นตลอดเวลา รวมไปถึงกำลังใจและแรงสนับสนุนทุกรูปแบบที่มีให้กับกองทัพเสมอมา ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารทุกนายปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มความสามารถ

ด้านโฆษกกองทัพบกได้กล่าวถึงบทบาทการสื่อสารในฐานะโฆษกกองทัพบกว่า ทำหน้าที่เชื่อมโยงข้อมูลจากแนวหน้าสู่สาธารณชน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความเข้าใจ พร้อมย้ำว่า กองทัพพร้อมยืนเคียงข้างประชาชนในทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะในสนามรบด้านข้อมูลข่าวสาร ที่ทุกคนถือเป็นกำลังสำคัญไม่แพ้ทหารแนวหน้า โดยทางแม่ทัพกุ้งได้กล่าวเสริมเรื่องนี้พร้อมได้เชิญชวนนักเรียน นักศึกษา และคนรุ่นใหม่ที่มีหัวใจรักชาติ เข้าร่วมสมัครเป็นทหาร โดยชี้ว่า กำลังพลที่มีอยู่ยังไม่เพียงพอ เพราะการฝึกนายทหารที่แข็งแกร่งต้องใช้เวลานับปี ปัจจุบันทหารไทย 1 นายต้องต่อสู้กับข้าศึกมากถึง 10 นาย จึงจำเป็นต้องพัฒนาคุณภาพกำลังพลให้เข้มแข็งยิ่งกว่าเดิม พร้อมฝากข้อคิดให้เยาวชนใช้สื่อโซเชียลอย่างสร้างสรรค์ ไม่หลงเชื่อในข่าวปลอม แต่ช่วยกันเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อเสริมพลังทางสังคมไทยให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและสง่างาม.