ชาวบ้าน 3 ตำบลริมน้ำปิง ยื่นหนังสือผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เรียกร้องให้เร่งรื้อฝาย 3 ฝายในลำน้ำปิงตามแผนและเสียงหนุนชาวบ้านส่วนใหญ่ หลังเป็นสาเหตุทำให้เกิดน้ำท่วมซ้ำซาก
เชียงใหม่ 22 ต.ค. – ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ รับหนังสือจากนางจีรพร หวันแดง นายกเทศมนตรีตำบลหนองหอย ตัวแทนชาวบ้านจากตำบลหนองหอย ตำบลหนองผึ้ง อำเภอเมืองเชียงใหม่ และตำบลท่าวังตาล อำเภอสารภี เพื่อสนับสนุนการรื้อฝายในลำน้ำปิงทั้ง 3 ฝาย ได้แก่ ฝายพญาคำ ฝายหนองผึ้ง และฝายท่าวังตาล ตามแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม หลังพบว่าเป็นสาเหตุสำคัญที่ขวางการไหลของน้ำ ทำให้เกิดน้ำท่วมชุมชนโดยรอบซ้ำซากทุกปี ประกอบกับได้มีการประชุมรับฟังความคิดเห็นโดยชาวบ้านกว่าร้อยละ 80 ในพื้นที่ร่วมลงชื่อสนับสนุนเห็นควรรื้อฝายทั้ง 3 ฝายออก ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการไหลของน้ำ ลดความเสี่ยงเกิดอุทกภัยได้อย่างยั่งยืน
หลังรับเรื่องผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้มีการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียแล้ว 9 ครั้ง ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการรื้อฝาย แต่ยังมีกลุ่มอนุรักษ์ที่ต้องการคงไว้ซึ่งวิถีวัฒนธรรมดั้งเดิม ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมีประตูระบายน้ำท่าวังตาลที่สามารถควบคุมระดับน้ำในแม่น้ำปิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลทั้ง 2 ฝ่ายจะนำไปสู่การพิจารณาโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การแก้ไขปัญหาอุทกภัยของจังหวัดเชียงใหม่เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ทั้งนี้ให้ข้อมูลเพิ่มอีกว่า ในปี 2567 จังหวัดเชียงใหม่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยอย่างหนัก รัฐบาลจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยกว่า 1,200 ล้านบาท และเกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจมากกว่า 5,600 บาท จึงได้วางมาตรการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะโครงการขุดลอกและกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำในแม่น้ำปิง ระยะทางรวม 42 กิโลเมตร ทำให้ปีนี้การระบายน้ำในแม่น้ำปิงที่ไหลผ่านเขตเศรษฐกิจของตัวเมืองเชียงใหม่มีประสิทธิภาพดีขึ้นอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สำหรับฝายทั้ง 3 แห่งตามแผนที่ต้องรื้อใช้งบประมาณราว 12 ล้านบาท








