วัยรุ่น วัยใดๆ อย่าริใกล้บุหรี่ไฟฟ้า หมอเตือนอันตรายรอบทิศ ผิวหนังยังไม่เว้น!

เชียงใหม่ 12 พ.ย.- นายแพทย์วรัญญู จำนงค์ประสาทพร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่เผยว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างรุนแรงแต่ค่านิยมในสังคมยังพบเห็นมีการใช้ทุกเพศทุกวัยน่าเป็นห่วงที่สุดคือกลุ่มเยาวชนที่เข้าถึงได้ง่ายในยุคปัจจุบันทั้งที่เป็นสิ่งผิดกฎหมายมีอันตรายต่อสุขภาพอย่างมากไม่เฉพาะแค่ปอดหรืออวัยวะภายในเท่านั้นข้อมูลทางการแพทย์มีการสำรวจล่าสุดทพบว่า เด็กนักเรียนหญิงอายุ 13 – 15 ปี สูบบุหรี่ไฟฟ้าสูงถึง 15% เป็นสถิติที่น่าเป็นห่วงมาก เพราะหญิงไทยสูบบุหรี่มวนเพียง 1.5% และบุหรี่ไฟฟ้า เมื่อติดแล้วจะเลิกยากกว่าบุหรี่มวน อีกครั้งมีความเสี่ยงต่อสุขภาพและชีวิตมากกว่าหลายเท่าเนื่องจากเป็นสารพิษทั้งนั้น
กลุ่มเสี่ยงนักเรียน วัยรุ่นหญิง ที่พบตัวเลขเพิ่มสูงขึ้นน่าจะไม่รู้ถึงอันตราย 6 ข้อ หลักๆของการสูบบุหรี่ไฟฟ้าที่มีต่อผิวหนังและใบหน้า จากสารพิษนิโคติน สารเคมีปรุงแต่งกลิ่นรสต่างๆ โลหะหนัก และสารก่อมะเร็ง ดังนี้
1. เป็นสิวเพิ่มขึ้นและรุนแรงขึ้นกว่าปกติ
2. ผิวหนังไม่สดใส ไม่มีชีวิตชีวา
3. ผิวแห้ง ซึ่งผิวที่แห้งจะทำให้ความผิดปกติของผิวหนังเรื่องอื่น เช่น ผิวหนังอักเสบ สะเก็ดเงินเป็นมากขึ้น
4. ผิวหนังแก่เร็ว จากการที่คอลลาเจนใต้ผิวหนังถูกทำลาย สารนิโคติน ทำให้เส้นเลือดใต้ผิวหนังหดตัว เลือดไปเลี้ยงผิวหนังลดลง รวมถึงสารเคมีต่าง ๆ ในไอบุหรี่ไฟฟ้า ก่อเกิดอนุมูลอิสระ ทำลายคอลลาเจนและอิลาสติน ทำให้แก่ก่อนวัย
5. เกิดการอักเสบของผิวหนังรุนแรง
6. เพิ่มความไวของผิวหนังต่อกัมมันตรังสี ยูวีจากแสงแดด ทำให้ผิวหนังแก่เร็ว และเพิ่มความเสี่ยงการเป็นมะเร็งผิวหนังได้ง่ายกว่าปกติ
นอกจากนี้ข้อมูลทางการแพทย์ยังระบุว่า ผลกระทบต่อสุขภาพของบุหรี่ไฟฟ้าส่งผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง เวียนหัว วิงเวียน การนอนหลับผิดปกติ ปวดศีรษะ หลอดเลือดสมองหดตัวเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมอง ส่งผลต่อพัฒนาการของสมองทั้งต่อทารกในครรภ์ เด็กและวัยรุ่น ผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด เกิดภาวะหลอดเลือดแข็ง ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น โรคหลอดเลือดหัวใจ หัวใจเต้นเร็วและหัวใจเต้นผิดจังหวะ ระบบหายใจ เสี่ยงโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หลอดลมหดเกร็งและโรคมะเร็งสูงขึ้น ผลต่อระบบทางเดินอาหาร เกิดแผลในกระเพาะอาหาร อาการคลื่นไส้ ปากแห้ง กรดไหลย้อน โรคมะเร็ง

ทั้งนี้น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ยังมีส่วนประกอบอื่น ๆ เพิ่มเติม ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพ เช่น

  1. โพรพิลีนไกลคอล: ระคายเคืองตา ทางเดินหายใจ ไอ ปวดหัว คลื่นไส้อาเจียน
  2. กลีเซอรีน: ไอ หลอดลมตีบ หอบเหนื่อย
  3. สารประกอบอันตรายอื่น ๆ เช่น สารหนู โลหะหนัก ฟอร์มัลดีไฮด์ เบนซีน สารชูรสมินต์ เมนธอล ซึ่งอาจก่อมะเร็ง

นอกจากนี้ พิษของบุหรี่ไฟฟ้า ยังส่งผลเหนี่ยวนำการอักเสบ ลดประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกัน ส่งผลกระทบต่อระบบประสาท ทั้งด้านพฤติกรรม หน่วยความจำ กล้ามเนื้อกระตุก งานวิจัยระบุชัดเจนว่า สูบบุหรี่ไฟฟ้าเสี่ยงต่อการเกิดโรคเส้นเลือดสมองตีบสูงขึ้น 71%, โรคหัวใจวายเฉียบพลันสูงขึ้น 59% และกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดสูงขึ้น 40%