มช.ทำ mou วิโนน่า นำงานวิจัยถั่วเหลืองดูแลสุขภาพหญิงวัย 45+ พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนนำงานวิจัยต่อยอดเชิงพาณิชย์ตอบกระแสเทรนด์โลกและความยั่งยืน

มช. เดินหน้าขับเคลื่อนนวัตกรรมสุขภาพสู่สังคมในการพัฒนาประเทศด้วยนวัตกรรม พร้อมสนับสนุนการทำงานของบุคลากรตั้งแต่งานวิจัยขั้นพื้นฐานจนกระทั่งพร้อมส่งต่อไปยังภาคเอกชน เพื่อรับไม้ต่อการใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ ล่าสุดทำ mou วิโนน่า อินเตอร์เนชั่นแนล ต่อยอดผลงานวิจัยสารสกัดถั่วเหลืองช่วยผู้หญิงวัย 45+ ให้เป๊ะ

เชียงใหม่ 1 ก.ย.- มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ได้จัดแถลงข่าวการอนุญาตให้ใช้สิทธิเทคโนโลยี (Lensing) ผลิตภัณฑ์สารสกัดถั่วเหลืองในรูปแบบชนิดเม็ดแคปซูล อาหารเสริมและรูปแบบทาภายนอก ซึ่งเป็นนวัตกรรมเพื่อคุณภาพชีวิตผู้หญิง 45+ ให้แก่บริษัท วิโนน่า อินเตอร์เนชันแนล จำกัด พร้อมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับบริษัทฯ โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมด้านสุขภาพให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงในภาคอุตสาหกรรมและสังคม ณ อาคารอำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค ภาคเหนือ ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่โดยมีศาสตราจารย์ ดร.นพ.พงษ์รักษ์ ศรีบัณฑิตมงคล อธิการบดี มช. เปิดงานพร้อมลงนามความร่วมมือกับ นายอิทธิพล ศรีอิทยาจิต กรรมการบริษัท วิโนนา อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยในอนาคตโดยเฉพาะสุขภาพที่ดีในกลุ่มประชากรสตรีวัยทอง หรือ 45 + และผู้สูงอายุที่กำลังเป็นสังคมภาพรวมของประเทศเวลานี้ รวมถึงการสร้างโอกาสให้กับบุคลากรของมหาวิทยาลัยสามารถพัฒนาทักษะและต่อยอดองค์ความรู้ ผ่านการทำงานร่วมกับภาคเอกชน พร้อมส่งเสริมนักศึกษาผ่านกิจกรรมสหกิจศึกษาเน้นการเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง เพื่อเตรียมความพร้อมสู่การทำงานอย่างมีประสิทธิภาพให้ความสำคัญกับบทบาทการเป็นฟันเฟืองในการพัฒนาประเทศด้วยนวัตกรรม พร้อมสนับสนุนการทำงานของบุคลากรตั้งแต่งานวิจัยขั้นพื้นฐานจนกระทั่งพร้อมส่งต่อไปยังภาคเอกชน เพื่อรับไม้ต่อการใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ต่อไป
“จากความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ มช. ในการส่งต่อนวัตกรรมเพื่อสุขภาพสู่ภาคเอกชน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศ พัฒนาเศรษฐกิจบนฐานนวัตกรรมและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุอย่างยั่งยืน ซึ่งขณะนี้เทรนด์ด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อมเป็นแนวทางสำคัญของโลก อีกทั้งความร่วมมือที่เกิดขึ้นยังส่งเสริมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำโดยเฉพาะกับเกษตรกร นอกจากนี้ทางมหาวิทยาลัยก็ถือเป็นนโยบายสำคัญหลักในการส่งเสริมงานวิจัยต่างๆเพื่อไปต่อยอดพัฒนาสังคมและประเทศไปสู่ความยั่งยืน เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจ ซึ่งก็มีอีกหลายงานวิจัยที่กำลังขับเคลื่อนไม่เฉพาะด้านทางการแพทย์เท่านั้น”

ขณะที่นายอิทธิพล ศรีอิทยาจิต ผู้บริหาร บ.วิโนน่า เผยว่า การจับมือกับ มช. ในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของบริษัทฯ ในการนำนวัตกรรมจากผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยสู่การใช้ประโยชน์ในภาคอุตสาหกรรมและเชิงพาณิชย์ โดยมีความเชื่อมั่นในกระบวนการวิจัยและพัฒนาจากทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นอกจากนี้บริษัท วิโนน่าฯ ยังมีแผนต่อยอดผลิตภัณฑ์จากการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคในกลุ่มผู้สูงอายุ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตประชากรกลุ่มใหญ่ในอนาคตอีกด้วย
ด้านผศ.ดร.ธัญญานุภาพ อานันทนะ รองอธิการฯ กล่าวเสริมว่า มช. มีกลไกในการขับเคลื่อนนวัตกรรมทั้งทางด้านสุขภาพและด้านอื่น ๆ อย่างครอบคลุม ตั้งแต่การสนับสนุนการวิจัยและพัฒนา เพื่อส่งเสริมให้คณาจารย์สร้างสรรค์ผลงานที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาตามกฎหมาย การนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ ทั้งในรูปแบบการอนุญาตให้ใช้สิทธิ การจัดตั้งบริษัท Tech Spin-Off ผ่านกลไกบริษัท อ่างแก้วโฮลดิ้ง จำกัด การจัดสรรผลประโยชน์กลับคืนสู่ผู้วิจัยเพื่อเป็นแรงผลักดันในการสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ ตลอดจนการส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์จากผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยเพื่อเป็นข้อมูลอ้างอิงและสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานทั่วไป นอกจากการการลงนามความร่วมมือแล้ว ในงานยังมีการจัดเสวนาและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ที่น่าสนใจ โดยเริ่มจากการบรรยายพิเศษ “เบื้องหลังความสำเร็จ: เส้นทางการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมจากสารสกัดถั่วเหลือง สู่การใช้ประโยชน์” โดย รศ.ดร.นพ.ศุภนิมิต ทีฆชุณหเถียร หัวหน้าศูนย์วิจัยทางคลินิกเพื่อทดสอบและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารและสมุนไพร (CR-FAH) และหัวหน้าภาควิชาเภสัชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งได้ถ่ายทอดประสบการณ์จากห้องแล็บสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์จริงที่สามารถต่อยอดสู่ภาคอุตสาหกรรมและนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ได้ หัวข้อ “มหาวิทยาลัย – เอกชน กับบทบาทการสร้างนวัตกรรมที่ใช้ได้จริง” โดยผู้ร่วมเสวนาเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจากหลายภาคส่วน อาทิ ผศ.ดร.ธัญญานุภาพ อานันทนะ รองอธิการบดีด้านนวัตกรรม, รศ.ดร.นายแพทย์ณัฐ คูณรังษีสมบูรณ์ จากคณะแพทยศาสตร์, ดร.พัชราภรณ์ วงษา ผู้อำนวยการโปรแกรมบริหารโภชนเภสัชภัณฑ์และเวชสำอาง ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (TCELS) และนายนพรัตน์ สุขสราญฤดี ผู้ก่อตั้งบริษัท วิโนน่า อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งล้วนมีบทบาทสำคัญในการผลักดันงานวิจัยไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ตลาดจริง โดยมี ผศ.ดร.ทินกร ปงธิยา ผู้ช่วยผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (STeP) ทำหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ.