มภ.3 ย้ำมาตรการคุมเข้มยาเสพติด สถานการณ์แนวชายแดนยังรอทะลักสูง

แม่ทัพภาคที่ 3 ชี้สถานการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดชายแดนยังน่าห่วง ต้องวางมาตรการคุมเข้มทุกพื้นที่

เชียงใหม่ 15 ธ.ค.- ที่หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ (นบ.ยส.35) พล.ท.วรเทพ บุญญะ ผบ.นบ.ยส.35 เผยถึงสถานการณ์การลักลอบลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดนไทย–เมียนมา ว่า ยังน่ากังวลที่มีการทะลุกเข้ามาต่อเนื่อง มีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนในช่วง 1–2 ปีที่ผ่านมา จากการข่าวแนวชายแดนพบว่า ปัจจุบันยังคงมีปริมาณยาเสพติดที่ตรวจยึดได้เพิ่มสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะยาบ้าและไอซ์ สะท้อนให้เห็นถึงการเพิ่มกำลังการผลิตจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ขณะที่เครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดมีการปรับรูปแบบการลำเลียงให้ซับซ้อนขึ้น ทั้งการใช้เส้นทางธรรมชาติ เส้นทางรอง การซุกซ่อนของกลางในรถดัดแปลง ตู้คอนเทนเนอร์ เรือเล็ก และการใช้บุคคลในพื้นที่เป็นเครือข่ายเชื่อมโยง
การเพิ่มขึ้นของยาเสพติดดังกล่าวมักเกิดจากปัจจัยพื้นฐานคือความยากจน ความเหลื่อมล้ำและโอกาสทางเศรษฐกิจที่จำกัด ทำให้บางกลุ่มถูกดึงเข้าสู่วงจรลำเลียงยาเสพติด ซึ่งการดำเนินงานแก้ไขปัญหาจะต้องมีการป้องกันควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ชายแดน เช่น การส่งเสริมอาชีพ และการสร้างชุมชนเข้มแข็ง
สำหรับมาตรการรับมือในครั้งนี้ทางนบ.ยส.35 ได้เน้นการทำงานแบบบูรณาการทุกภาคส่วน โดยเฉพาะกำลังทหารที่จะต้องร่วมกับตำรวจ ตชด. ป.ป.ส. หน่วยความมั่นคงและภาคประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาพบว่า ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันมากขึ้น โดยมีการแจ้งเบาะแสผ่านทางฝ่ายปกครอง ตำรวจและทหารในพื้นที่ เนื่องจากทุกคนได้รับผลกระทบจากปัญหายาเสพติด

ทั้งนี้ นบ.ยส.35 ได้ใช้ข้อมูลข่าวกรองและพัฒนาศักยภาพการปฏิบัติการสกัดกั้นกับฝ่ายความมั่นคงภายใต้หลักสิทธิมนุษยชน โดยเน้นการจับกุมผู้กระทำผิดตามกฎหมายและส่งต่อผู้ต้องหาสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างถูกต้อง พร้อมประสานความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อปิดเส้นทางการเงินและเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติ

อย่างไรก็ตาม นบ.ยส.35 ยังคงเดินหน้าภารกิจสกัดกั้นยาเสพติดอย่างเข้มข้น พร้อมเพิ่มการประสานงาน การข่าว และความร่วมมือกับทุกหน่วยงานอย่างต่อเนื่องโดยประชาชนสามารถติดตามความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมได้ทางเพจของ นบ.ยส.35