เชียงใหม่ พร้อมเปิดประตูรับนักท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่นแล้ว หวังฟื้นเศรษฐกิจกระจายรายได้ไปสู่ทุกภาคส่วนจัดเวทีถกทิศทางส่งเสริมผลักดันทุกมิติสู่ Chiang Mai: The City of Life, Wellness and Festival
เชียงใหม่ 10 ต.ค. 68 – ช่วงค่ำ ที่ร้าน Stories
Ping River จ.เชียงใหม่ นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมเสวนาเรื่อง ทิศทางการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปี 2569″ ภายใต้แนวคิด Chiang Mai: The City of Life, Wellness and Festival เพื่อยกระดับประสบการณ์นักท่องเที่ยวและสร้างคุณค่าการเดินทางสู่การยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยและจังหวัดเชียงใหม่สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ดันสู่ทุกมิติสู่ Global Destination ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่จัดขึ้น โดยกิจกรรมเสวนาเรื่อง ทิศทางการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปี 2569″ ภายใต้แนวคิด Chiang Mai: The City of Life, Wellness and Festival มีผู้ร่วมเสวนาคือ นายขจรเดช อภิชาติตรากุล ผู้อำนวยการ ภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประเด็นให้ข้อมูลใน ทิศทางการส่งเสริมการตลาดการท่องเที่ยวภาคเหนือ ปี 2569 นายวัชรายุธ์ กัววงศ์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่ ประเด็น ทิศทางการส่งเสริมการตลาดการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ปี 2569 นายไพศาล สุขเจริญ นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ เรื่องแนวทางบูรณาการความร่วมมือการส่งเสริมการตลาดการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ปี 2569 นายศุภมิตร กิจจาพิพัฒน์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ แนวทางบูรณาการความร่วมมือการส่งเสริมการตลาดการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ปี 2569 และนายสิทธิพงษ์ วงศ์สมบูรณ์ ประธาน Skal International Chaing Mai ประเด็นการส่งเสริมกิจกรรมเทศกาลงานประเพณี ในจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีผู้บริหารภาครัฐ เอกชนและภาคการท่องเที่ยวด้านต่างๆเข้าร่วมจำนวนมาก
ทั้งนี้นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้กล่าวขอบคุณภาคการท่องเที่ยวทุกหน่วยงานที่ได้สรรสร้างกิจกรรมดีๆ หลายอย่างขึ้นมา พร้อมทั้งร่วมกันกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อฟื้นเศรษฐกิจให้จังหวัดเชียงใหม่ภายหลังที่ประสบกับสาธารณภัยต่างๆ มานานนับปี จนสามารถผ่านมาได้และกำลังจะก้าวเข้าสู่ช่วงเวลาของการเปิดประตูของฤดูกาลในไฮซีซั่นของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งหลังจากนี้ภาคการท่องเที่ยว ผู้ประกอบการก็จะได้ยิ้มพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว โดยเชื่อว่า ในปี 2569 เราจะก้าวเข้าสู่ความมั่งคั่งไปด้วยกัน บนความร่วมมือของทุกภาคส่วนและนำไปสู่การกระจายรายได้ไปยังภาคส่วนต่างๆ ทั้งคนทำงานทั่วไป ภาคอุตสาหกรรม ภาคการเกษตร ล้วนได้รับประโยชน์จากการที่การท่องเที่ยวของเชียงใหม่กำลังเติบโตขึ้น
นายวัชรายุธ์ กัววงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงใหม่ เปิดเผยว่า แนวทางการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของเชียงใหม่ในปี 2569 ททท.เชียงใหม่ จะร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อเสริมสร้างคุณค่า เชื่อมโยงเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและยกระดับเมืองเชียงใหม่ทุกมิติ โดยกำหนดทิศทางการตลาดท่องเที่ยวให้เป็นเมืองแห่งชีวิตชีวา เมืองแห่งสุขภาพและเมืองแห่งเทศกาล ภายใต้แนวคิด Chiang Mai: The City of Life, Wellness and Festival โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ การยกระดับเมืองเชียงใหม่สู่การเป็น Global Destination
โดยได้กำหนด 2 กลยุทธ์หลัก คือ การขยายฐานตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพ และการรักษาการเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งจะขับเคลื่อนผ่าน 4 โครงการสำคัญ ได้แก่ 1.Chiang Mai Hideaway โดยโฟกัสนักท่องเที่ยวกลุ่ม Gen Y และ Gen Z ซึ่ง 2 กลุ่มนี้ถือเป็น Consumer หลัก เป็นกลุ่ม FIT ที่มีไลฟ์สไตล์ในการเดินทางท่องเที่ยวเอง โดยเฉพาะตลาดนักท่องเที่ยวจีน ขณะเดียวกันก็ยังพบว่านักท่องเที่ยว Gen Y และ Gen Z ให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน (Sustainable) มากขึ้น โดยยินดีที่จะจ่ายเพิ่มเพื่อที่พักและกิจกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จึงนำเสนอเส้นทาง Road Trip แบบแปลกใหม่ที่เน้นความรับผิดชอบและยั่งยืน ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ที่มองหาประสบการณ์ที่มีคุณค่า
2.Chiang Mai Beyond Workation ทั้งนี้ หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลายคนสามารถออกเดินทางท่องเที่ยวได้มากขึ้นและสถานการณ์ท่องเที่ยวกลับมาเป็นปกติ จึงต้องกระตุ้นและผลักดันให้คนเดินทางออกมาใช้จ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเดินทางในวันธรรมดา ผ่านโครงการ “วันธรรมดาน่าเที่ยว” ด้วยแพ็คเกจท่องเที่ยวและโปรโมชั่นพิเศษ โดยร่วมมือกับพันธมิตรในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเพิ่มการใช้จ่ายและยืดการพำนักของนักท่องเที่ยว
3.Chiang Mai Sensory Retreat โดยความมีเสน่ห์อย่างหนึ่งของเมืองเชียงใหม่คือ เชียงใหม่เป็นเมืองของการใช้ชีวิต Life, Wellness and Festival เป็นเมืองแห่งหมุดหมายให้ผู้ที่ต้องการเดินทางมาพักผ่อนและฟื้นฟูสุขภาพกายและใจ ด้วยกิจกรรมที่เชื่อมโยงธรรมชาติ ภูมิปัญญาล้านนา และวิถีสุขภาพแบบองค์รวม
และ 4.Chiang Mai Festive Journey ซึ่งแผนการตลาดโครงการนี้จะมีการผนึกความร่วมมือกับโครงการ 12 เดือน 12 เทศกาล ของจังหวัดเชียงใหม่ กิจกรรมหลักคือ การถ่ายทอดเรื่องราวอัตลักษณ์ล้านนา วิถีชีวิต อาหาร และธรรมชาติ ผ่าน Soft Power ของเชียงใหม่ เพื่อเชิญชวนกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่พำนักในไทย ออกมาสัมผัส “Meaningful Travel” หรือ “การท่องเที่ยวที่มีความหมาย” โดยพฤติกรรมนักท่องเที่ยวในยุคนี้ต้องการประสบการณ์ที่ลึกซึ้งกว่าแค่การพักผ่อน แต่เป็นการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อตนเอง ชุมชน และสิ่งแวดล้อม โดยเน้นการเดินทางอย่างรับผิดชอบ สัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น และสร้างความเชื่อมโยงกับผู้คนและสถานที่อย่างมีความหมาย
ซึ่งการดำเนินงานปี 2569 จะมุ่งผลักดันเชียงใหม่สู่ศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการท่องเที่ยวสำหรับกลุ่มผู้มีรายได้สูง (High – End) เน้นตลาดกลุ่มคุณภาพเชื่อมโยงกับภูมิภาคภาคเหนือตอนบน ชูไฮไลท์เด่นด้วยเทศกาลระดับนานาชาติ เช่น เทศกาลไม้ดอกไม้ประดับ ประจำปี 2569, ปี๋ใหม่เมืองเจียงใหม่ (สงกรานต์), ประเพณียี่เป็ง, Chiang Mai Pride ฯลฯ เป็นการนำเสนอสินค้าและกิจกรรมที่สะท้อนอัตลักษณ์ล้านนา ควบคู่ไปกับการสร้างความยั่งยืนและความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ได้วางกลยุทธ์การตลาดดิจิทัล การสื่อสารเชิงสร้างสรรค์ มุ่งเน้นความร่วมมือกับ Influencers/KOLs ระดับนานาชาติ เพื่อขยายฐานตลาดกลุ่มคุณภาพให้กว้างขึ้น
ขณะที่นายไพศาล สุขเจริญ นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ กล่าวว่า สถานการณ์การแข่งขันด้านการท่องเที่ยวระหว่างประเทศมีสูงขึ้น โดยเฉพาะประเทศเวียดนามได้มีมาตรการจูงใจให้สายการบินระหว่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ด้วยการลดค่าธรรมเนียมการลงจอดเครื่องบิน-ลดค่าหลุมจอดลงเพื่อดึงดูดสายการบินเพิ่มมากขี้น ซึ่งทำให้ตัวเลขเที่ยวบินและนักท่องเที่ยวของเวียดนามสูงขี้น ดังนั้นทางสภาฯ จะได้ผลักดันและนำเสนอการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยรวมถึงกรมท่าอากาศยานในการปรับลดค่าธรรมเนียมของสายการบินระหว่างประเทศลงเพื่อเป็นการดึงดูดสายการบินต่าง ๆ และเพิ่มเที่ยวบินในจังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงสนามบินใกล้เคียงเช่นที่ลำปาง อันจะทำให้เกิดการกระจายตัวของนักท่องเที่ยวและเพิ่มปริมาณนักท่องเที่ยวอันจะกระตุ้นให้สถานการณ์ท่องเที่ยวในพื้นที่ต่อไป.