กลุ่มชาวนาอำเภอแม่อายส่งตัวแทนยื่นหนังสือให้ผู้ว่าเชียงใหม่เร่งแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ ก่อนจะเก็บเกี่ยวเร็วๆนี้
เชียงใหม่ 26 เม.ย.- นายสัญญา อิ่นแก้ว
ประธานกลุ่มชาวนาอำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่เผยว่า วานนี้(25 เม.ย.) ตนเป็นตัวแทนชาวนาในพื้นที่อำเภอแม่อายนำคณะกว่า 80 รายเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอความช่วยเหลือกรณีราคาข้าวตกต่ำ โดยระบุในหนังสือร้องเรียนว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์ราคาข้าวตกต่ำอย่างรุนแรงในขณะนี้ โดยราคาข้าวเปลือกในขณะนี้มีราคา 8.50 บาท /กิโลกรัม ซึ่งมีราคาต่ำกว่าต้นทุนการผลิต ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักโดยเฉพาะข้าวเปลือกเหนียวสันป่าตองที่พ่อค้าไม่รับซื้อ ชาวนาไม่มีความมั่นใจในการประกอบอาชีพ ซึ่งจะนำไปสู่ปัญหาด้านเศรษฐกิจและสังคมในวงกว้าง ในการนี้กลุ่มชาวนาอำเภอแม่อาย ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้กรุณาช่วยเหลือดำเนินการ หามาตรการเพื่อแก้ไขข้าวราคาดังนี้
- ดำเนินการสนับสนุนผู้ประกอบการนอกพื้นที่มารับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาในราคานำตลาด
- ดำเนินการหามาตรการพยุงราคาข้าวเปลือกสดไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 10 บาท
- ขอความกรุณาประสานงานหน่วยงานภาครัฐ ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อหาทางช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนก่อนการเก็บเกี่ยวเร็วๆ นี้ โดยให้อยู่ภายใต้การดูแลของสำนักงานพาณิชย์หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นการควบคุมการรับซื้อให้เป็นไปตามข้อกำหนด
โดยมีนางกนกรัตน์ ยุกติรัตน์ พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่พร้อมด้วยนายเจริญ พิมพ์ขาล เกษตรจังหวัดเชียงใหม่และเกี่ยวข้องมารับหนังสือพร้อมให้ตัวแทนร่วมประชุมหาแนวทางแก้ไข ทั้งนี้พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีโรงสีนอกพื้นที่หลายโรงแจ้งความประสงค์อยากเข้ามาซื้อข้าวในจังหวัดเชียงใหม่ ถ้าหากพื้นที่มีพื้นที่ให้ดำเนินการรับซื้อก็จะแจ้งทางโรงสีที่มีความประสงค์จะเข้ามาซื้ออย่างเร่งด่วนได้ทันที
ทางด้านนายเจริญ พิมพ์ขาล เกษตรจังหวัดเชียงใหม่ชี้แจงที่ประชุมว่า มีผู้ประกอบการโรงสีภายนอกประสงค์จะซื้อข้าวสันป่าตองเป็นจำนวนมาก โดยได้ติดต่อประสานมาทางเกษตรจังหวัด หากทางพื้นที่อำเภอแม่อายพร้อมต้องการให้เขาเข้ามารับซื้อช่วงไหน ทางเกษตรจังหวัดจะเป็นผู้ประสานงานให้ เพราะชาวนาแม่อายลงทะเบียนไว้กว่า 28,000ไร่ ซึ่งมากกว่าอำเภออื่นๆ ฉะนั้นโรงสีนอกพื้นที่จะเข้ามาต้องเข้าแม่อายก่อนอำเภออื่น คาดว่า ราคาจะตกอยู่ที่ 12,000 บาทต่อตัน ซึ่งเป็นที่พอใจของกลุ่มชาวนาโดยให้ลงบันทึกอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรก่อนที่จะแยกย้ายกลับบ้าน.
